ประเทศไทยจะเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตได้หรือไม่?

ภูมิภาคอาเซียนถือเป็นตลาดใหม่ที่สำคัญและน่าตื่นเต้นสำหรับยานยนต์ไฟฟ้ามีการแข่งขันกันสูงมากในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากเนื่องจากในภูมิภาคอาเซียนมีข้อดีคือเป็นศูนย์การผลิตที่มีต้นทุนไม่สูงแต่ยังคงคุณภาพแม้แต่รัฐบาลในประเทศอาเซียนก็ให้ความสนใจการนำเข้ารถ EVรวมถึงประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่ซื้อรถEV จากจีนมากที่สุดในอาเซียนตามด้วยอินโดนีเซียและมาเลเซีย ทำให้ไทยรั้งอันดับ 3 ในตลาดส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าของจีน

1) ขนาดตลาดEV ของประเทศไทย

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า(EV) ในประเทศไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาแต่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ตามรายงานของ Frost &Sullivan ตลาด EVของไทยคาดว่าจะเติบโตที่อัตราการเติบโตต่อปี(CAGR) ที่29.5%ในช่วงปี 2018 ถึง 2025โดยได้แรงหนุนจากการสนับสนุนและสิ่งจูงใจจากรัฐบาล ตลอดจนการรับรู้และการยอมรับที่เพิ่มขึ้นของEVs โดยผู้บริโภค

2) การผลิตและส่งออกEV ของประเทศไทย

ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่ปัจจุบันประเทศส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) เพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากข้อมูลของสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ประเทศไทยส่งออกรถ EVทั้งหมด290คันในปี 2020ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมากของการส่งออกยานยนต์ทั้งหมดของประเทศ

 

รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่ผลิตในประเทศไทยจำหน่ายในประเทศโดยรัฐบาลและภาคเอกชนของประเทศส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าผ่านมาตรการจูงใจและโครงการต่างๆอย่างไรก็ตาม ประเทศไทยกำลังทำงานเพื่อเพิ่มการส่งออก EVในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในวงกว้างในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยั่งยืนและมีคาร์บอนต่ำ

3) แบรนด์ EVที่ลงทุนในไทยแล้ว

ผู้ผลิตรถยนต์EV ชื่อดังจากต่างประเทศหลายค่ายเริ่มรุกตลาดไทยอย่างเข้มข้นเช่น เทสลาค่ายรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในประเทศไทยโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100%สำหรับรถยนต์ Plug-in Hybrid ในไทย โรงงานแรกในอาเซียน ซึ่งไทยเป็น 1 ใน 7 โรงงานผลิตแบตเตอรี่-รถยนต์ไฟฟ้าของ Mercedes-Benzเป็นต้น

ประเทศไทยก้าวหน้าแค่ไหนเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในอาเซียน?

1) ประเทศไทยมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ1ในอาเซียน

ข้อมูลจากการวิจัยของCounterpoint รายงานยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ในภูมิภาคอาเซียนโดยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในภูมิภาคอาเซียนมากกว่า 60% เป็นของประเทศไทย จากการวิจัยของ Counterpointที่รวบรวมข้อมูลการขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วภูมิภาคภูมิภาคอาเซียน.

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น35%เมื่อเทียบกับปี 2564โดยเฉพาะในประเทศของเราที่มียอดจดทะเบียนสูงที่สุดในภูมิภาค คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 60% ของจำนวนการลงทะเบียนทั้งหมดที่มีตามมาด้วยอินโดนีเซียและสิงคโปร์

2) ภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

ประเทศไทยเป็นผู้นำในการขายรถยนต์ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยยอดขายมากกว่า60%อันเป็นผลจากการสนับสนุนของรัฐบาลในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั้งเรื่องการอุดหนุนการซื้อรถยนต์ สิทธิทางภาษีส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยสามารถเข้าถึงได้ง่าย ประกอบกับการที่รัฐบาลผลักดันให้บริษัทรถยนต์ต่างชาติเข้ามาตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยทำให้มีแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากต่างประเทศเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก เช่น BYD,GWM, MG, Mercedes-Benz, NETA เป็นต้น .

นอกจากนี้ยังมีแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าต่างประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษFTA ไทย-จีนทำให้ราคารถยนต์เข้าถึงได้เป็นพิเศษ ได้แก่ TESLA แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกจากสหรัฐอเมริกาซึ่งมีโรงงานประกอบรถยนต์ในจีนจึงได้อานิสงส์ไปโดยปริยาย เทสลา ประเทศไทยเปิดราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า เทสลา โมเดล 3 เริ่มต้นเพียง 1,759,000 บาท ใกล้เคียงกับราคาจำหน่ายในต่างประเทศส่งผลให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนกวาดยอดจองหลายพันคันภายในเวลาไม่กี่วัน.

3) รองรับสถานีชาร์จในประเทศไทย

การใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้นอาจมีข้อเสียตรงที่เมื่อใช้จนแบตเตอรี่ใกล้หมดต้องรีบหาสถานีชาร์จเติมรถและให้คนลงไปยืดเส้นยืดสายด้วยแม้จะใช้เวลานานกว่าเติมน้ำมันรถ แต่จุดนี้ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนต้องเร่งลงทุนมหาศาล ตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตามจุดต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้มากขึ้น

จากข้อมูลอัปเดตเดือนพฤษภาคม2565ประเทศไทยมีสถานีอย่างน้อยกว่า 944 แห่ง เมื่อแยกตามภูมิภาค พบว่าจำนวนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศไทยอยู่ในเขต

กรุงเทพฯนนทบุรี ปทุมธานี รวม 473 สถานี

ภาคกลาง152 สถานี

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:95 สถานี

ภาคเหนือ:109 สถานี

ภาคใต้ 115สถานี

เพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาดEV รัฐบาลไทยได้ดำเนินนโยบายและมาตรการจูงใจต่างๆรวมถึงการลดหย่อนภาษีและการยกเว้น การอุดหนุนสำหรับการซื้อ EVและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จรัฐบาลยังได้จัดตั้งโครงการจำนวนมากเพื่อสนับสนุนการผลิตและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ

โดยรวมแล้วแม้ว่าตลาด EV ในประเทศไทยจะยังมีขนาดเล็กถึงขนาดกลางแต่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมากและมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นส่วนที่สำคัญมากขึ้นของตลาดยานยนต์ของประเทศในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

Published on:
March 30, 2022
Category:
EV

Related